ReadyPlanet.com
dot dot
dot
เกี่ยวกับ บริษัท เพอร์เฟค อินนิเซียล(ประเทศไทย) จำกัด
dot
bulletเกี่ยวกับเพอร์เฟค
bulletการอบรมส่งเสริมทางวิชาการ
bulletกิจกรรมเพื่อสังคม
dot
ทางด้านการท่องเที่ยว และการเกษตร
dot
bulletไร่เทพ มังกรศิลป์ พร้อมโฮมสเตย์
dot
เคมีสำหรับจัดจำหน่าย
dot
bulletเคมีสำหรับจัดจำหน่าย
dot
เหยื่อกำจัด ปลวก มด แมลงสาบ
dot
bulletเหยื่อกำจัดปลวก เอ็กซ์เทอม สำหรับสถานีบนดิน
bulletเหยื่อกำจัดปลวก เอ็กซ์เทอม สำหรับสถานีใต้ดิน
bulletเหยื่อกำจัดมด ดิจิตอล คิลเลอร์
bulletเจลแมลงสาบ แบล๊ททาธอร์ อัลตร้า
bulletเหยื่อกำจัดแมลงสาบซีจเจล
dot
สารป้องกันและกำจัดปลวก
dot
bulletโปรธอร์
bulletProthor
bulletอัลตร้าธอร์
bulletULTRATHOR
bulletแม็กซ์ธอร์
bulletMaxxthor
dot
เหยื่อกำจัดสัตว์พาหะ
dot
bulletเหยื่อกำจัดหนู โรเด๊นธอร์
dot
อุปกรณ์กำจัดแมลง
dot
bulletเครื่องดักแมลง
bulletเครื่องดักแมลง I-trap 50E
bulletเครื่องดักแมลง SPARROWHAWK
dot
บริการด้านสุขอนามัย
dot
bulletเครื่องเป่ามือ
bulletหุ่นยนต์เช็ดกระจก
bulletเครื่องสวมถุงหุ้มร่มเปียกอัตโนมัติ
dot
อุปกรณ์ฉีดพ่นสารเคมี
dot
bulletเครื่องพ่นหมอกควัน(FOGGER)
bulletเครื่องพ่นฝอยละเอียด
dot
บริการ
dot
bulletบริการกำจัดปลวก และแมลง
dot
สินค้า
dot
bulletสบู่น้ำผึ้ง
bulletสมุนไพรกำจัดปลวก
dot
แมลงและสัตว์พาหะน่ารู้
dot
bulletปลวก
bulletมด
bulletแมลงสาบ
bulletแมลงวัน
bulletหนู
bulletยุง
bulletตัวเรือด
bulletแมงมุม
bulletเห็บ/หมัด
dot
ตำแหน่งงานว่าง
dot
bulletประกาศตำแหน่งงานว่าง
dot
เว็บไซด์ที่น่าสนใจ
dot
bulletwww.google.co.th
bulletหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
bulletหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
bulletหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
bulletหนังสือพิมพ์มติชน
bulletหนังสือพิมพ์บ้านเมือง
bulletหนังสือพิมพ์เชียงใหม่นิวส์
bulletสมาคมผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลง
bulletสมาคมกำจัดแมลงภาคเหนือ
bulletฐานความรู้เรื่องความปลอดภัยด้านสารเคมี
bulletสำนักงานสาธารณสุข เชียงใหม่
bulletคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
bulletข่าวประกวดราคา
bulletศูนย์ทดลองปลูกพืชสมุนไพร ผักและผลไม้ปลอดสารพิษ
dot
สถานที่ตั้งสาขาบริการ
dot
bulletสำนักงานบริการส่วนกลาง
bulletcode website


หนู

หนู

(RAT)

ความสำคัญของหนู

หนูเป็นสัตว์ที่กินอาหารได้เกือบทุกชนิด แต่ความต้องการอาหารของหนูแตกต่างกันไปตามชีพจักรของการเจริญเติบโตและช่วงฤดูกาลผสมพันธุ์เมื่อถึงฤดูแล้งก่อนการเพาะปลูกจะเป็นช่วงที่ขาดอาหารธรรมชาติ หนูจะกินอาหารทุกชนิดที่พบและประชากรหนูจะมีปริมาณสูงมาก หนูจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มง่ายต่อการกำจัด หลังจากที่เกษตรกรเริ่มลงมือทำนาหรือปลูกพืชครั้งที่ ๒ ความเป็นอยู่ของหนูจะเปลี่ยนไป อาหารเพิ่มขึ้นและมีแหล่งที่อยู่อาศัยหลบซ่อนมากขึ้น ความอดอยากของหนูจะน้อยลง ฉะนั้นช่วงนี้การป้องกันและกำจัดหนูจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ประกอบกับเกษตรกรจะต้องดูแลเอาใจใส่ต่อต้นพืชในเรื่องอื่น ๆ จึงไม่ค่อยมีเวลาที่จะทำการกำจัดหนู

โดยธรรมชาติหนูจะมีอายุประมาณ ๑ ปี แต่หนู ๑ ตัว จะกินอาหารต่อวันในปริมาณเพียง ๑๐% ของน้ำหนักตัวมันเท่านั้น เฉลี่ยถ้าหนูตัวหนึ่งมีน้ำหนักประมาณ ๒๐๐ กรัม มันจะกินอาหารหนักประมาณ ๗.๓ กิโลกรัมต่อปี ดังนั้นความเสียหายจากการทำลายของหนูที่พบโดยทั่ว ๆ ไป จะเป็นการกัดทำลายเพื่อปรับหรือลับฟันคู่หน้าของมันให้สั้นอยู่ในสภาพที่เหมาะแก่การกัดพืชผลหรือสิ่งอื่น ๆ เท่านั้น ไม่เช่นนั้นฟันคู่หน้าของมันทั้งบนล่างจะงอกยาวออกมาโดยเฉลี่ยตลอดชีวิตของหนู ฟันจะยาวประมาณ ๖ - ๙ นิ้ว

หนูเมื่อมีอายุ ๒ เดือนขึ้นไป ก็สามารถผสมพันธุ์ได้แล้ว ระยะที่หนูเป็นสัดเฉลี่ยประมาณ ๕ วัน ระยะตั้งท้องประมาณ ๒๑ วัน และหลังจากคลอดลูกแล้ว ภายใน ๒๔ ชั่วโมง หนูเพศเมียจะสามารถผสมพันธุ์ได้อีก ดังนั้นมันจึงสามารถ ออกลูกได้ปีละไม่น้อยกว่า ๔ - ๖ ครอก ครอกละประมาณ ๔ - ๑๐ ตัว หนูเป็นสัตว์ ที่มีตาบอดสี ประสาทตาไม่ค่อยดี ในขณะที่ออกหากินเวลาคืน หนูจะใช้หนวดหรือขนข้างจมูกเป็นเครื่องช่วยนำทาง และใช้จมูกสูดดมกลิ่นหาอาหารได้เป็นอย่างดี มีประสาทรับฟังเสียงได้ดีมาก มีประสาทรับรู้ในการชิมได้ดีและรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมปนมาในอาหารได้ง่าย จะเห็นว่าหนูเกิดการเข็ดขยาดต่อสารพิษบางชนิด หนูว่ายน้ำไม่เก่ง ดำน้ำได้ดี บางครั้งอาจพบว่าเมื่อมีประชากรหนูมาก มันจะอพยพว่ายน้ำข้ามคลองหรือวิ่งข้ามถนนกันเป็นฝูง ๆ ไปสู่แหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ

ปกติหนูชอบที่จะออกหากินในเวลากลางคืน แต่บางครั้งหนูจะออกหากินในตอนกลางวัน ถ้าขาดแคลนอาหารหรือเพื่อที่มันจะหลบหนีจากศัตรูธรรมชาติ เช่น งู นกแสก นกฮูก หนูมักจะอาศัยอยู่ตามคันนา คันไร่ คันสวนหรือรกร้างว่างเปล่าที่มีหญ้าขึ้นรกรุงรัง ใกล้แหล่งน้ำ เช่น ตามขอบบ่อ หนอง คลองบึง หนูเพศเมียจะขุดรูอาศัยเพื่อเลี้ยงลูก ส่วนเพศผู้จะอาศัยอยู่บริเวณใกล้ ๆ ตามบริเวณพื้นที่ที่มีหญ้ารกรุงรัง ในฤดูแล้งหนูจะอาศัยอยู่รมกันเป็นจำนวนมาก ถ้าขุดรูดูจะพบว่าในรู ๑ รู จะมีหนูอาศัยอยู่ ๓๐ ถึง ๔๐ ตัว

รูปร่างและชีวประวัติ

หนูเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ออกหากินในเวลากลางคืน ถ้าหากประชากรของหนูหนาแน่นมาก ก็อาจทำให้บางตัวออกหากินในเวลากลางวัน สิ่งที่ช่วยให้หนูสามารถออกหากินในเวลากลางคืนได้เป็นอย่างดี คือ หนวด ซึ่งอยู่บริเวณด้านข้างใกล้จมูกทั้ง 2 ข้าง หนูจะใช้หนวดช่วยคลำทาง ดังนั้น หนูมักออกหากินตามทางเดินเสมอทำให้เกิดรอยทางเดิน นอกจากนี้หนูยังมีฟันหน้าที่คมและแข็งแรงใช้กัดแทะเมล็ดหรือเปลือกผลไม้ที่แข็งได้โดยง่าย และยังกัดแทะของแข็ง ๆ เช่น ไม้เพื่อลับฟันให้คมอยู่เสมอและทำให้ฟันแทะของมันไม่งอกยาวจนเกินไป หนูเป็นสัตว์ที่ขยายพันธุ์ได้เร็ว โดยปกติหนูจะโตเต็มวัยเมื่อมีอายุประมาณ 1 1/2 - 2 เดือน ขึ้นไป เพศเมียตั้งท้องประมาณ 21 วัน และออกลูกครอกละหลายตัว ในปีหนึ่ง ๆ หนูจะออกลูกได้หลายครอก ซึ่งมีผู้คำนวณว่าในเวลา 1 ปี หนู 1 คู่ สามารถขยายพันธุ์รวมกันได้มากกว่า 1,000 ตัว อย่างไรก็ตามประชากรหนูก็ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้มากจนเกินไปเพราะปริมาณประชากรหนูจะถูกควบคุมด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น ศัตรูธรรมชาติ อาหาร ที่อยู่อาศัย และอื่น ๆ

ชนิดของหนูที่พบอยู่ทั่วไป

1. หนูพุกใหญ่หรือหนูแผง (Great Bandicoot) เป็นหนูที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยเมื่อโตเต็มที่ประมาณ ๔๐๐ - ๖๐๐ กรัมมีขนตามลำตัว สีดำหรือน้ำตาล บริเวณส่วนหลังจะมีขนแข็ง ๆ โผล่ออกมาอย่างเห็นได้ชัด เท้ามีสีดำ หน้าค่อนข้างสั้นเพศเมียมีเต้านมที่อก๓ คู่ และท้องอีก ๓ คู่มีนิสัยชอบขู่ พบในหน้าข้าว หรือไร่ข้าวโพดออกมาหากินได้ไกลในระยะ ๑๐๐ เมตร จากที่อยู่อาศัย

 
2. หนูพุกเล็ก (Lesser Bandicoot) มีรูปร่างลักษณะคล้ายหนูพุกใหญ่ ทั้งสีขน เต้านมในเพศเมีย และมีนิสัยชอบขู่ แตกต่างกันตรงที่เท้าไม่ดำ และไม่มีขนเป็นแผงบริเวณส่วนหลัง น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยเมื่อโตเต็มที่ประมาณ ๒๐๐ - ๒๕๐ กรัม พบในนาข้าว ไร่อ้อยและข้าวโพด
3. หนูนาท้องขาว (Ricefield Rat) มีขนาดปานกลาง น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยเมื่อโตเต็มที่ประมาณ๘๐ - ๒๐๐ กรัม ขนตามตัวมีสีนำตาล และมีสีดำแซม หางมีสีดำตลอด เพศเมียมีเต้านมที่อก ๓ คู่ และที่ท้อง ๓ คู่ พบทั่วไปในนาข้าว ออกหากินได้ไกลในระยะ ๕๐ เมตรจากที่อยู่อาศัย
 
4. หนูนาเล็กหรือหนูสวน (Lesser Ricefield Rat) มีขนาดเล็กกว่าหนูนาท้องขาว น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยประมาณ ๙๐ - ๑๐๐ กรัม มีขนตามตัวคล้ายหนูนาท้องขาว หน้าสั้นทู่ใบหูเล็ก ขนที่ท้องมีสีเข้ม เพศเมียมีเต้านมที่อก ๒ คู่ และที่ท้อง ๓ คู่ พบทั่วไปในไร่นา
5. หนูหริ่งหางสั้น (Fawn - Coloured Mouse) มีขนาดเล็ก น้ำหนักตัวโดยเฉลี่ย ๑๐ - ๑๕ กรัม ความยาวของหางสั้นกว่าความยาวของหัวและลำตัวรวมกัน หางด้านบนมีสีเทา ด้านล่างสีขาว ท้องสีเทา เท้าสีขาว มีจมูกยาวค่อนข้างแหลมยื่นเกินฟันหน้า เพศเมียมีเต้านมที่อก ๓ คู่ ที่ท้อง ๒ คู่ พบตามนาข้าว ไร่ข้าวโพด ออกหากินได้ไหลในระยะ ๓ - ๙ เมตร จากที่อยู่อาศัย

6. หนูหริ่งหางยาว (Ryukyu Mouse) มีขนาดเล็กพอ ๆ กับหนูหริ่งหางสั้นน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยประมาณ ๑๒ กรัม ความยาวของหางยาวกว่าความยาวของหัวและลำตัวรวมกัน ฟันคู่หน้าด้านบนตรงฟันด้างล่างมีสีเข้มกว่าฟันหนูชนิดอื่น ขนใต้ท้องมีสีขาว จมูกสั้น หางด้านบนสีดำ ด้านล่างสีขาว เพศเมียมีเต้านมที่อก ๓ คู่ ที่ท้อง ๒ คู่ พบกระจายทั่วไปในนาข้าวไร่ ข้าวโพด ถั่วเหลืองและถั่วเขียว

 

 

การป้องกันกำจัด

1.สมสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของหนู โดยกำจัดวัชพืชหรือกองวัสดุเหลือใช้ เพื่อมิให้หนูใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือหลบกำ บังขณะออกหากินเวลากลางคืน

2. อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติเพื่อควบคุมหนู ได้แก่ งูชนิดต่าง ๆ เช่น งูเห่า งูทางมะพร้าว งูแมวเซา งูแสงอาทิตย์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่นอีกหลายชนิดที่คอยจับหนูกินเป็นอาหาร เช่น พังพอน เหยี่ยว นกเค้าแมว นกแสก เป็นต้น

3. การใช้สารเคมีออกฤทธิ์ช้าระหว่างการปลูก เช่น โบรดิฟาคูม, โฟลคูมาเฟน, โบรมาดิโอโลน, ไดฟีทิอาโลน, คูมาเททราลิล ที่อยู่ในรูปเหยื่อพิษสำหร็จรูป ชนิดเป็นก้อน ทำการวางเหยื่อ 20 ก้อนต่อไร่ โดยวางเหยื่อพิษตามทางเดินของหนู หรือใส่ลงในรูหนูโดยตรง หรือวางตามแหล่งที่มีหนูระบาด อย่างไรก็ตามควรวางเหยื่อพิษในแนวป้องกันรอบ ๆ แปลงเพื่อป้องกันหนูเคลื่อนย้ายมาทำลายอาศัยของหนู เช่น รูหนู และรอยทางเดินของหนูด้วย

ความปลอดภัยในการใช้สารกำจัดหนู

ในการใช้สารเคมีเบื่อหนูไม่ว่าจะเป็นชนิดออกฤทธิ์เร็วหรือช้า หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ก่อนใช้จะต้องกันเด็กและสัตว์เลื้ยงออกให้ห่างจากบริเวณนั้น การเบควรเก็บให้มิดชิดบริเวณที่รอดพ้นอัตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง ในกรร๊ที่เกิดอุบัตืเหตุจากสารเคมีเบื่อหนู ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

1. อุบัติเหตุจากสารเคมีออกฤทธิ์เร็ว ผู้ป่วยจะมีอาการจุก เสียด ท้องเดิน หายใจไม่สะดวก กระสับกระส่ายและเป็นตะคริว

วิธีแก้พิษเบื้องต้น : ใช้นิ้วล้วงคอให้อาเจียน แล้วให้ดื่มสารละลายโปแตสเซียมเปอร์มังกาเนต (KMnO4) 0.1% ในอัตราส่วน 6 กรัม ละลายในน้ำอุ่น 1 แก้ว หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที ให้ดื่มสารละลายคอปเปอร์ซัลเฟตในอัตรา 1/2 ช้อนชา ผสมน้ำ 250 ซีซี ทำการล้วงท้องด้วยน้ำเกลือแล้วรีบพาผู้ป่วยส่งแพทย์

2. อุบัติเหตุจากสารเคมีชนิดออกฤทธิ์ช้า ผู้ป่วยจะเกิดอาการโลหตภายในร่างวกายไหลไม่หยุดอ่อนเพลียเพราะเสียโลหิตมาก

วิธีแก้พิษเบื้องต้น : พยายามทำให้อาเจียน เพื่อให้สารพิษออกจากร่างกายให้มากที่สุด ใช้วิธีการเหมือนอุบัติเหตุเนื่องจากสารเคมีชนิดออกฤทธิ์เร็ว แล้วใช้วิตามิน K กับผู้ป่วยก่อนนำส่งแพทย์




บริการของบริษัท

บริการกำจัดแมลงส่วนราชการ
กำจัดแมลงโรงงาน
บริการกำจัดแมลงร้านอาหาร
บริการกำจัดปลวก
ตัวเรือด article
แมลงวัน article
ยุง article
แมลงสาป article
มด article
ปลวก



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

สำนักงานบริหารงานภาคเหนือ สำนักงานใหญ่
เลขที่ 113/159 หมู่บ้านกาญจน์กนกวิลล์ 4  ตำบลสันกำแพง  อำเภอสันกำแพง  จังหวัดเชียงใหม่  50130
สาขาเชียงใหม่/ภาคเหนือ: โทรศัพท์  0-5326-0241 , 0-5330-9099
สายด่วนฝ่ายขาย  08-1530-1139 , 08-0134-2282
 

สำนักงานบริการ งานส่วนกลาง
สาขากรุงเทพฯ เลขที่ 14 ซอยรามอินทรา 99 แยก 2  ถนนรามอินทรา  แขวงคันนายาว  เขตคันนายาว  กรุงเทพฯ  10230
โทรศัพท์ 0 - 2003 - 0890   โทรสาร  0 - 2003 - 0890  ต่อ 104
เลขที่ 238 ซอยลาดพร้าว 64 (เกตุนุติ) ถ.ลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310 โทร 0-2935-5299 โทรสาร 0-2935-5688

ตัวแทนจำหน่ายเคมีและสินค้า
สาขาเชียงใหม่/ภาคเหนือ: โทรศัพท์  0-5326-0241  โทรสาร 0-5330-9099
สายด่วนฝ่ายขาย  08-1530-1139 , 08-0134-2282